การลงทะเบียนและยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

การขึ้นทะเบียนรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

   คุณสมบัติของผู้มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

1. สัญชาติไทย

2. มีอายุ 59 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (ในกรณีที่ทะเบียนราษฎร์ระบุเฉพาะปีเกิด ให้ถือว่า บุคคลนั้นเกิดวันที่ 1 มกราคมของปีนั้น เช่น เกิด พ.ศ.2497 ให้ถือว่าเกิด วันที่ 1 มกราคม 2497)

3. มีภูมิล าเนาอยู่ในเขตเทศบาลต าบลเหมืองง่า

4. ไม่เป็นผู้ที่รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือเทศบาล อบต. ได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะ เดียวกัน ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับ เงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจ า หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือเทศบาล อบต. จัดให้เป็นประจำ ยกเว้นผู้พิการหรือผู้ป่วยเอดส์ตามระเบียบ

หลักฐานในการขึ้นทะเบียนดังนี้

1. บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายพร้อม สำเนา จำนวน 1 ชุด

2. ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา จำนวน 1 ชุด

3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร พร้อมสำเนา (เฉพาะหน้าที่แสดงชื่อ และเลขที่บัญชี) ส าหรับกรณีที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประสงค์ขอรับเงินเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุผ่านธนาคาร จำนวน 1 ชุด

ผู้อื่นยื่นเอกสารแทนผู้สูงอายุได้หรือไม่ ? ในกรณีผู้สูงอายุที่ไม่สามารถมาลงทะเบียนด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นเป็น

ผู้ยื่นคำขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ โดยให้ผู้รับมอบอำนาจติดต่อที่องค์การบริหารส่วนตำบลเหล่าพัฒนา โดยต้องมีหนังสือมอบอำนาจตัวจริง พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและ ทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ อย่างละ 1 ชุด

ยื่นเอกสารแล้วจะได้รับเงินเมื่อไหร่ ?

ผู้สูงอายุที่มาลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพ ตั้งแต่วันที่ ตุลาคม – พฤศจิกายน ของปีที่ ผ่านมา และเดือนมกราคม – กันยายน ของปีงบประมาณนั้น จะมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุในเดือนถัดไปจากเดือนที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์

ผู้สูงอายุแต่ละคนจะได้รับเงินเท่าไหร่ ? ปัจจุบันได้จ่ายแบบขึ้นบันได ดังนี้

อายุ 60 – 69 ปี จะได้รับ 600 บาท

อายุ 70 – 79 ปี จะได้รับ 700 บาท

อายุ 80 – 89 ปี จะได้รับ 800 บาท

อายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท

ในกรณีผู้สูงอายุที่มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุย้ายทะเบียนบ้านให้ อบต. ที่เคยจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดิมยังคงจ่ายเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุจนกว่าจะสิ้นสุด ปีงบประมาณนั้น คือเดือนกันยายน หากมีความประสงค์จะรับเบี้ยยังชีพกับเทศบาล หรือ อบต. แห่งใหม่ต้องไปจดทะเบียนเพื่อขอรับเบี้ยยังชีพที่เทศบาลหรือ อบต. แห่งใหม่ ภายใน วันที่ 1 – 30 พฤศจิกายน ของทุกปี และเริ่มรับเงินที่แห่งใหม่ในเดือนตุลาคมของปีถัดไป

วันเวลาที่เปิดให้บริการ วันจันทร์ ถึง วันศุกร์  ในวันและเวลาราชการ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 16.30 น.

ขั้นตอนการให้บริการ ระยะเวลา

1. ผู้สูงอายุยื่นเอกสารที่ใช้ในการลงทะเบียนผู้สูงอายุ

2. เจ้าหน้าที่รับเอกสาร ตรวจสอบเอกสาร ตรวจสอบคุณสมบัติ

3. ประกาศรายชื่อ หลังจากรับขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุในแต่ละเดือน เป็นระยะเวลา 15 วัน ระยะเวลาดำเนินการรวม 10 นาที

Share: